หลวงปู่ใหญ่เทพโลกอุดร, หลวงปู่ใหญ่พระครูโลกอุดร, หลวงปู่เทพโลกอุดร, พระครูเทพโลกอุดร
เป็นชื่อใหม่ๆ สำหรับชื่อ “พระครูโลกอุดร”
ผมเคยเคยอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับพระครูโลกอุดรมานานแล้ว ตอนนั้นน่าจะอ่านจากนิตยสาร “โลกทิพย์”
อ่านแล้วก็รู้สึก
“มัน” ไปกับเรื่องเล่าเหล่านั้น ตอนนั้นก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง
ปัจจุบันนี้ยืนยันเลยว่า
หลวงปู่ใหญ่เทพโลกอุดร,
หลวงปู่ใหญ่พระครูโลกอุดร, หลวงปู่เทพโลกอุดร, พระครูเทพโลกอุดร, “พระครูโลกอุดร”
ไม่มีจริง
เป็นเรื่องแต่งขึ้น แล้วก็แต่งเอามันจนเป็นไม่รู้กี่ร้อยเรื่อง
ตอนนี้ หลวงปู่ใหญ่เทพโลกอุดร, หลวงปู่ใหญ่พระครูโลกอุดร, หลวงปู่เทพโลกอุดร,
พระครูเทพโลกอุดร, “พระครูโลกอุดร” ก็เป็นเครื่องมือหากินของพวกหลอกลวงไปเรียบร้อย
ลองๆ
อ่านประวัติของพระครูโลกอุดร สัก 1 หนึ่ง พอให้เป็นที่รู้จักว่า เขาเขียนกันทำนองนี้ เนื้อหาเอามาจาก Google site ชื่อ “พระครูโลกอุดร”
ปู่โทน
หลำแพร
นานมาแล้วหนุ่มใหญ่วัย
๓๐ คนหนึ่ง ฝักใฝ่ในการปฏิบัติพระกรรมฐาน
เมื่อถึงวันพระก็ถือมั่นใรอุโบสถศีลอย่างเคร่งครัด
ละทิ้งการงานออกจากบ้านมุ่งเข้าป่า เข้าถ้ำหาความวิเวกบำเพ็ญตะบะ เจริญภาวนา
โทน
หลำแพร ผู้นั้นเคยบรรพชาเป็นสามเณรอยู่ได้ ๓ พรรษา และบวชเป็นพระอยู่ ๒ พรรษา
.....
หนุ่มโทนเป็นหนุ่มลูกทุ่ง
เป็นชาวบ้านโพธิ์ไทร อ.อินทรบุรี จ.สิงห์บุรี สมัยเมื่อบวชเรียนสนใจแต่พระกรรมฐาน
และได้สึกออมาทำนา
ก็มิวายหาโอกาสไปแสวงหาวิเวกตามป่าเขาลำเนาไพรทำกรรมฐานอยู่เสมอ
คืนวันหนึ่งหนุ่มโทนนั่งบำเพ็ญเพียรภาวนาอยู่ในถ้ำพระ
ที่หลังเขาช่องแค อ.ตาคลี นครสวรรค์ จิตได้รวมตัวสูงอยู่ในความสงบ.....
จิตดิ่งลึกสงบศานติยิ่งขึ้น
จนกระทั่งรู้สึกว่าร่างกายของตนหายไป
มีแต่ความว่างเปล่าเหลือเพียงแต่จิตดวงเดียวที่สว่างอยู่
พักใหญ่จิตก็คลายออกและออกมาจากห้วงสมาธิลึก
มาทรงตัวอยู่ในระดับหนึ่งซึ่งก็เกิดอารมณ์นึกคิดตริตรองข้ออรรถธรรมได้...
พลัยทันใดนั้นเกิดมีแสงสว่างวาบเจิดจ้าคล้ายแสงฟ้าผ่าอยู่ในท่ามกลางแสงสว่างนั้น
ปรากฏร่างนิมิตของพระภิกษุรูปหนึ่งยืนอยู่
ณ เบื้องหน้าตนเอง.....เป็นการเห็นภาพทางใจ เรียกว่านิมิต
คล้ายภาพที่เห็นที่เห็นในจอโทรทัศน์
|
ข้อให้สังเกตรูปแบบนี้
ถ้าออกมาอย่างนี้ เป็นเรื่องไม่จริง โกหกหลอกลวงเอามันทั้งสิ้น
พระภิกษุที่มาปรากฏในสมาธิ
มีรูปร่างสูงใหญ่ผิดปกติ สูงประมาณ ๙ ศอก ลักษณะเป็นคนหุ่นโบ
ผิวพรรณเปล่งปลั่งผุดผ่อง มีสง่าราศีน่าเคารพยำเกรง
รูปเค้าหน้าสวย
เป็นพระภิกษุหนุ่มแน่น นุ่งสบง ทรงจีวรย้อมฝาด จริยาอิริยาแม้จะสง่าน่าเกรงขาม
แต่แฝงด้วยความละม่อมละไมน่าเคารพเลื่อมใส.....
หนุ่มโทนนึกในใจว่า " เจ้ากู "
...องค์นี้จะเป็นภูตวิญญาณผู้เป็นใหญ่มาปรากฏให้เห็น
หรือจะเป็นพระสงฆ์องค์สำเร็จที่ยังมีชีวิตอยู่ในป่าในถ้ำถอดจิตส่งกายทิพย์มาโปรดเรากันแน่หนอ?
จึงถามขึ้นในใจว่า..."
ภุนเต...ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า มีนามว่ากระไร? ...มาจากไหน?
สมณะรูปนั้นกล่าวตอบในสมาธินิมิตว่านามคือ " พระครูโลกอุดร "
...เป็นพระธุดงค์อยู่ในป่า และกำลังเล็งเห็นด้วยจักษุเป็นทิพย์ว่า
....อุบาสกโทนปฏิบัติกรรมฐานยังไม่ถูกต้องในร่องรอบปฏิปทา
หนุ่มโทนได้ฟังเช่นนั้นแล้วก็ให้ดีใจ
และอัศจรรย์ที่จะได้ครูบาอาจารย์ประเภทลี้ลับที่ไม่มีตัวตน
จะพบเห็นได้ก็ในยามเข้าสมาธิเท่านั้น
ครูบาอาจารย์ประเภทนี้
อาจเป็นฤๅษีดาบสผู้สำเร็จ หรืออาจเป็นพระอริยเจ้าผู้เชี่ยวชานสมาบัติ
ถึงความเต็มเปี่ยมด้วยกำลังอภิญญา
มีอภินิหารมากบำเพ็ญภาวนาอยู่วัตตะนิยะวิชัมพุวัตถุ
...หมายถึงสถานที่ภูมิประเทศอันสงัดลับเร้น
|
ข้อความแบบนี้ก็เช่นเดียวกัน
ถ้าออกมาในรูปแบบนี้ เป็นเรื่องไม่จริง โกหกหลอกลวงเอามันทั้งสิ้น
พระครูโลกอุดร
ท่านพระเดชพระคุณ
พระครูโลกอุดร เป็นพระภิษุผู้ทรงอภิญญา อภินิหารของท่านเป็นเรื่องเล่าลือกันมานานหลายร้อยสิบๆ
ปีแล้วในแวดวงพระธุดงค์
พระครูโลกอุดรมรณะภาพไปนานมากแล้ว
แต่ร่างสังขารของท่านยังมีผู้คนเห็นว่า ท่านเที่ยวบิณฑบาตอยู่แถวๆ กรุงเทพฯ
นครปฐม ราชบุรี ลพบุรี อุดรธานี หนองคาย อุบลราชธานี เวียงจันทร์ ปากเซ
จำปาศักดิ์ แม้ปัจจุบัน
|
ตรงนี้ข้อความไม่ตรงกัน
บางเรื่องบอกว่า “มีอายุเป็นพันปี ไม่ตาย” อันนี้บอกว่าตายไปแล้ว
แต่ยังเห็นร่างกายท่านอยู่
ท่านพระครูโลกอุดร
เป็นผู้พาปู่โทนไปชมป่าหิมพานต์ ตะลึงลานกับ
" นารีผล " มาแล้ว .....
ปู่โทนเป็นศิษย์ของท่านพระครูโลกอุดร
การเป็นศิษย์ของท่าน เป็นไปอย่างพิสดารมหัศจรรย์ยิ่งกว่าหนังโทรทัศน์หลังข่าว
|
นี่ก็เป็นสูตรสำเร็จอย่างหนึ่งในการสร้างเรื่องให้น่าเชื่อถือ คือ
ต้องไปป่าหิมพานต์มา ไปพบเจอสิ่งลี้ลับที่คนอื่นไม่มีสิทธิ์ได้เห็น
ทหารไทยที่ไปรบเวียตนาม
เคยพบท่านพระครูโลกอุดรปรากฏร่างอยู่ในสมรภูมิแถบชายป่าเวียตนามมาแล้ว
ท่านสำแดงปาฏิหารไปโปรดทหารไทยขณะตกอยู่ในห่ากระสุน
ห่าระเบิดของเวียตกงทำให้ทหารไทยพากันรอดตายเหมือนมีเทวดามาโปรด
ต่างพากันสะอื้นไห้ก้มลงจูบเท้าท่านด้วยความปราบปลื้มตื้นตันสำนึกในพระเดชพระคุณของท่าน
|
เอากันเข้าไป
แล้วทหารไทยที่ตายไปในสงครามดังกล่าว เป็นพัน เป็นหมื่น
ทำไมพระครูโลกอุดพรทำไมถึงไม่ไปช่วย
ทำไมจึงช่วยเฉพาะกลุ่มนี้
นี่คือ
อานุภาพของพระสงฆ์สาวกในพระพุทธศาสนา .....
นี่คืออานุภาพของพระพุทธ
พระธรรม พระสงฆ์ที่คอยให้ความคุ้มครองป้องกันอุปัทวันอันตรายแก่พุทธศาสนิกชนในทุกเมื่อ
|
พระครูโลกอุดรคือผู้อมตะ...ไม่ตาย
อ้าวฉิบหายเลยเรื่องนี้
เลือกเล่าไม่ตรงกัน
ก่อนหน้านี้บอกมรณภาพไปแล้ว ตรงนี้มาบอกว่า เป็นอมตะ ไม่ตาย
ท่านเที่ยววนเวียนอยู่ในป่า
คอยปรากฏร่างให้พระธุดงค์ผู้ใคร่ธรรมได้ประสบพบเห็นเป็นต้นว่า สอนธรรมปฏิบัติ
และช่วยเหลือในยามตกอยู่ในคับขันอันตรายในป่า
ท่านกระทำตนเป็นคณผู้คอยสอนพระธุดงค์กรรมฐานในป่าทุกหนทุกแห่ง
และกระทำตนเป็นตัวแทนของพระตถาคต
เรื่อราวของพระครูโลกอุดร
เป็นเรื่องลี้ลับพิสดารที่หน้าสนใจอย่างกว้างขวางในแวดวงพุทธศาสนิกชน....
ต่างถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์กันหาข้อยุติไม่ได้
บ้างก็ว่า พระครูโลกอุดรคือ หลวงพ่อโพรง
โพธิพระอาจารย์ใหย่ของหลวงปู่ศุขวัดมะขามเฒ่า ...
บ้างก็ยืนยันว่า
พระครูโลกอุดรคือ หลวงพ่อทาอาจารย์ของหลวงปู่ศุขวัดมะขามเฒ่า
ที่เข้าใจว่า
พระครูโลกอุดรคือ หลวงพ่อดำ หรือลิ้นดำก็มีเยอะ แต่....แน่ๆ ปู่โทนเชื่อว่า
พระครูโลกอุดรคือ สมเด็จลุนแห่งประเทศลาว ....
และเล่ากันว่าพระครูโลกอุดร
เป็นพระธุดงค์อยู่ตามป่าดงพงไพร จะปรากฏกายให้คนเห็นในบางโอกาส
คนที่จะเห็นท่านได้ต้องมีจิตอยู่ในกรรมฐาน.........
เชื่อกันว่าท่านบำเพ็ญภาวนาจนเกิดสมาธิแรงกล้า
สำเร็จญาณสมาบัติขั้นสูงสุด บรรสุอภิญญา มีกายและจิตเป็นอมตะ
สามารถแสดงอิทธิวิธี เนรมิตบิดเบือนกายได้ทุกรูปแบบ
|
ข้อให้ดูการเขียนของเจ้าของเรื่องด้วย ผมเอามาตรงๆ
โดยไม่แก้ไขเลย
เป็นการเขียนภาษาไทยที่ผิดอย่างมากมายมหาศาล
โดยสรุป หลวงปู่ใหญ่เทพโลกอุดร,
หลวงปู่ใหญ่พระครูโลกอุดร, หลวงปู่เทพโลกอุดร, พระครูเทพโลกอุดร, “พระครูโลกอุดร” เป็นเรื่องไม่จริง แต่ก่อนคงสร้างเรื่องขึ้นเพื่อเอามัน
เล่ามันปากไปเรื่อยๆ
แต่ในระยะนี้
เอามาเล่าเพื่อหลอกลวงประชาชน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น