Adsense

บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู

ประวัติหลวงปู่ใหญ่เทพโลกอุดร




หลวงปู่ใหญ่เทพโลกอุดร, หลวงปู่ใหญ่พระครูโลกอุดร, หลวงปู่เทพโลกอุดร, พระครูเทพโลกอุดร เป็นชื่อใหม่ๆ สำหรับชื่อ “พระครูโลกอุดร

ผมเคยเคยอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับพระครูโลกอุดรมานานแล้ว  ตอนนั้นน่าจะอ่านจากนิตยสาร “โลกทิพย์”

อ่านแล้วก็รู้สึก “มัน” ไปกับเรื่องเล่าเหล่านั้น  ตอนนั้นก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ปัจจุบันนี้ยืนยันเลยว่า

หลวงปู่ใหญ่เทพโลกอุดร, หลวงปู่ใหญ่พระครูโลกอุดร, หลวงปู่เทพโลกอุดร, พระครูเทพโลกอุดร, “พระครูโลกอุดร”  

ไม่มีจริง เป็นเรื่องแต่งขึ้น แล้วก็แต่งเอามันจนเป็นไม่รู้กี่ร้อยเรื่อง 

ตอนนี้ หลวงปู่ใหญ่เทพโลกอุดร, หลวงปู่ใหญ่พระครูโลกอุดร, หลวงปู่เทพโลกอุดร, พระครูเทพโลกอุดร, “พระครูโลกอุดร”  ก็เป็นเครื่องมือหากินของพวกหลอกลวงไปเรียบร้อย

ลองๆ อ่านประวัติของพระครูโลกอุดร สัก 1 หนึ่ง พอให้เป็นที่รู้จักว่า เขาเขียนกันทำนองนี้  เนื้อหาเอามาจาก Google site ชื่อ “พระครูโลกอุดร

ปู่โทน หลำแพร

นานมาแล้วหนุ่มใหญ่วัย ๓๐ คนหนึ่ง ฝักใฝ่ในการปฏิบัติพระกรรมฐาน เมื่อถึงวันพระก็ถือมั่นใรอุโบสถศีลอย่างเคร่งครัด ละทิ้งการงานออกจากบ้านมุ่งเข้าป่า เข้าถ้ำหาความวิเวกบำเพ็ญตะบะ เจริญภาวนา

โทน หลำแพร ผู้นั้นเคยบรรพชาเป็นสามเณรอยู่ได้ ๓ พรรษา และบวชเป็นพระอยู่ ๒ พรรษา .....

หนุ่มโทนเป็นหนุ่มลูกทุ่ง เป็นชาวบ้านโพธิ์ไทร อ.อินทรบุรี จ.สิงห์บุรี สมัยเมื่อบวชเรียนสนใจแต่พระกรรมฐาน และได้สึกออมาทำนา ก็มิวายหาโอกาสไปแสวงหาวิเวกตามป่าเขาลำเนาไพรทำกรรมฐานอยู่เสมอ

คืนวันหนึ่งหนุ่มโทนนั่งบำเพ็ญเพียรภาวนาอยู่ในถ้ำพระ ที่หลังเขาช่องแค อ.ตาคลี นครสวรรค์ จิตได้รวมตัวสูงอยู่ในความสงบ.....

จิตดิ่งลึกสงบศานติยิ่งขึ้น จนกระทั่งรู้สึกว่าร่างกายของตนหายไป มีแต่ความว่างเปล่าเหลือเพียงแต่จิตดวงเดียวที่สว่างอยู่

พักใหญ่จิตก็คลายออกและออกมาจากห้วงสมาธิลึก มาทรงตัวอยู่ในระดับหนึ่งซึ่งก็เกิดอารมณ์นึกคิดตริตรองข้ออรรถธรรมได้...

พลัยทันใดนั้นเกิดมีแสงสว่างวาบเจิดจ้าคล้ายแสงฟ้าผ่าอยู่ในท่ามกลางแสงสว่างนั้น

ปรากฏร่างนิมิตของพระภิกษุรูปหนึ่งยืนอยู่ ณ เบื้องหน้าตนเอง.....เป็นการเห็นภาพทางใจ เรียกว่านิมิต คล้ายภาพที่เห็นที่เห็นในจอโทรทัศน์

ข้อให้สังเกตรูปแบบนี้  ถ้าออกมาอย่างนี้ เป็นเรื่องไม่จริง โกหกหลอกลวงเอามันทั้งสิ้น

พระภิกษุที่มาปรากฏในสมาธิ มีรูปร่างสูงใหญ่ผิดปกติ สูงประมาณ ๙ ศอก ลักษณะเป็นคนหุ่นโบ ผิวพรรณเปล่งปลั่งผุดผ่อง มีสง่าราศีน่าเคารพยำเกรง

รูปเค้าหน้าสวย เป็นพระภิกษุหนุ่มแน่น นุ่งสบง ทรงจีวรย้อมฝาด จริยาอิริยาแม้จะสง่าน่าเกรงขาม แต่แฝงด้วยความละม่อมละไมน่าเคารพเลื่อมใส.....

หนุ่มโทนนึกในใจว่า  " เจ้ากู " ...องค์นี้จะเป็นภูตวิญญาณผู้เป็นใหญ่มาปรากฏให้เห็น หรือจะเป็นพระสงฆ์องค์สำเร็จที่ยังมีชีวิตอยู่ในป่าในถ้ำถอดจิตส่งกายทิพย์มาโปรดเรากันแน่หนอ?

จึงถามขึ้นในใจว่า..." ภุนเต...ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า มีนามว่ากระไร? ...มาจากไหน?

สมณะรูปนั้นกล่าวตอบในสมาธินิมิตว่านามคือ  " พระครูโลกอุดร " ...เป็นพระธุดงค์อยู่ในป่า และกำลังเล็งเห็นด้วยจักษุเป็นทิพย์ว่า ....อุบาสกโทนปฏิบัติกรรมฐานยังไม่ถูกต้องในร่องรอบปฏิปทา

หนุ่มโทนได้ฟังเช่นนั้นแล้วก็ให้ดีใจ และอัศจรรย์ที่จะได้ครูบาอาจารย์ประเภทลี้ลับที่ไม่มีตัวตน จะพบเห็นได้ก็ในยามเข้าสมาธิเท่านั้น

ครูบาอาจารย์ประเภทนี้ อาจเป็นฤๅษีดาบสผู้สำเร็จ หรืออาจเป็นพระอริยเจ้าผู้เชี่ยวชานสมาบัติ ถึงความเต็มเปี่ยมด้วยกำลังอภิญญา

มีอภินิหารมากบำเพ็ญภาวนาอยู่วัตตะนิยะวิชัมพุวัตถุ ...หมายถึงสถานที่ภูมิประเทศอันสงัดลับเร้น

ข้อความแบบนี้ก็เช่นเดียวกัน  ถ้าออกมาในรูปแบบนี้ เป็นเรื่องไม่จริง โกหกหลอกลวงเอามันทั้งสิ้น

พระครูโลกอุดร

ท่านพระเดชพระคุณ พระครูโลกอุดร เป็นพระภิษุผู้ทรงอภิญญา อภินิหารของท่านเป็นเรื่องเล่าลือกันมานานหลายร้อยสิบๆ ปีแล้วในแวดวงพระธุดงค์

พระครูโลกอุดรมรณะภาพไปนานมากแล้ว แต่ร่างสังขารของท่านยังมีผู้คนเห็นว่า ท่านเที่ยวบิณฑบาตอยู่แถวๆ กรุงเทพฯ นครปฐม ราชบุรี ลพบุรี อุดรธานี หนองคาย อุบลราชธานี เวียงจันทร์ ปากเซ จำปาศักดิ์ แม้ปัจจุบัน

ตรงนี้ข้อความไม่ตรงกัน  บางเรื่องบอกว่า “มีอายุเป็นพันปี ไม่ตาย”  อันนี้บอกว่าตายไปแล้ว แต่ยังเห็นร่างกายท่านอยู่

ท่านพระครูโลกอุดร เป็นผู้พาปู่โทนไปชมป่าหิมพานต์ ตะลึงลานกับ  " นารีผล " มาแล้ว .....

ปู่โทนเป็นศิษย์ของท่านพระครูโลกอุดร การเป็นศิษย์ของท่าน เป็นไปอย่างพิสดารมหัศจรรย์ยิ่งกว่าหนังโทรทัศน์หลังข่าว

นี่ก็เป็นสูตรสำเร็จอย่างหนึ่งในการสร้างเรื่องให้น่าเชื่อถือ คือ ต้องไปป่าหิมพานต์มา ไปพบเจอสิ่งลี้ลับที่คนอื่นไม่มีสิทธิ์ได้เห็น

ทหารไทยที่ไปรบเวียตนาม เคยพบท่านพระครูโลกอุดรปรากฏร่างอยู่ในสมรภูมิแถบชายป่าเวียตนามมาแล้ว

ท่านสำแดงปาฏิหารไปโปรดทหารไทยขณะตกอยู่ในห่ากระสุน ห่าระเบิดของเวียตกงทำให้ทหารไทยพากันรอดตายเหมือนมีเทวดามาโปรด

ต่างพากันสะอื้นไห้ก้มลงจูบเท้าท่านด้วยความปราบปลื้มตื้นตันสำนึกในพระเดชพระคุณของท่าน

เอากันเข้าไป  แล้วทหารไทยที่ตายไปในสงครามดังกล่าว เป็นพัน เป็นหมื่น ทำไมพระครูโลกอุดพรทำไมถึงไม่ไปช่วย

ทำไมจึงช่วยเฉพาะกลุ่มนี้

นี่คือ อานุภาพของพระสงฆ์สาวกในพระพุทธศาสนา .....

นี่คืออานุภาพของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ที่คอยให้ความคุ้มครองป้องกันอุปัทวันอันตรายแก่พุทธศาสนิกชนในทุกเมื่อ

พระครูโลกอุดรคือผู้อมตะ...ไม่ตาย

อ้าวฉิบหายเลยเรื่องนี้  เลือกเล่าไม่ตรงกัน  ก่อนหน้านี้บอกมรณภาพไปแล้ว ตรงนี้มาบอกว่า เป็นอมตะ ไม่ตาย

ท่านเที่ยววนเวียนอยู่ในป่า คอยปรากฏร่างให้พระธุดงค์ผู้ใคร่ธรรมได้ประสบพบเห็นเป็นต้นว่า สอนธรรมปฏิบัติ และช่วยเหลือในยามตกอยู่ในคับขันอันตรายในป่า

ท่านกระทำตนเป็นคณผู้คอยสอนพระธุดงค์กรรมฐานในป่าทุกหนทุกแห่ง และกระทำตนเป็นตัวแทนของพระตถาคต

เรื่อราวของพระครูโลกอุดร เป็นเรื่องลี้ลับพิสดารที่หน้าสนใจอย่างกว้างขวางในแวดวงพุทธศาสนิกชน....

ต่างถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์กันหาข้อยุติไม่ได้ บ้างก็ว่า พระครูโลกอุดรคือ หลวงพ่อโพรง โพธิพระอาจารย์ใหย่ของหลวงปู่ศุขวัดมะขามเฒ่า ...

บ้างก็ยืนยันว่า พระครูโลกอุดรคือ หลวงพ่อทาอาจารย์ของหลวงปู่ศุขวัดมะขามเฒ่า

ที่เข้าใจว่า พระครูโลกอุดรคือ หลวงพ่อดำ หรือลิ้นดำก็มีเยอะ แต่....แน่ๆ ปู่โทนเชื่อว่า พระครูโลกอุดรคือ สมเด็จลุนแห่งประเทศลาว ....

และเล่ากันว่าพระครูโลกอุดร เป็นพระธุดงค์อยู่ตามป่าดงพงไพร จะปรากฏกายให้คนเห็นในบางโอกาส คนที่จะเห็นท่านได้ต้องมีจิตอยู่ในกรรมฐาน.........

เชื่อกันว่าท่านบำเพ็ญภาวนาจนเกิดสมาธิแรงกล้า สำเร็จญาณสมาบัติขั้นสูงสุด บรรสุอภิญญา มีกายและจิตเป็นอมตะ สามารถแสดงอิทธิวิธี เนรมิตบิดเบือนกายได้ทุกรูปแบบ

ข้อให้ดูการเขียนของเจ้าของเรื่องด้วย ผมเอามาตรงๆ โดยไม่แก้ไขเลย  เป็นการเขียนภาษาไทยที่ผิดอย่างมากมายมหาศาล

โดยสรุป  หลวงปู่ใหญ่เทพโลกอุดร, หลวงปู่ใหญ่พระครูโลกอุดร, หลวงปู่เทพโลกอุดร, พระครูเทพโลกอุดร, “พระครูโลกอุดร”  เป็นเรื่องไม่จริง แต่ก่อนคงสร้างเรื่องขึ้นเพื่อเอามัน เล่ามันปากไปเรื่อยๆ

แต่ในระยะนี้ เอามาเล่าเพื่อหลอกลวงประชาชน 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น